"น. ณ ปากน้ำ"....เรื่อง
การท่องเที่ยวนั้นย่อมเกี่ยวกับกาลเวลา
หากว่าเวลามีน้อยเนื่องจากได้หยุดพักในวาระนักขัตฤกษ์จำกัดเพียงแค่ ๒-๓ วัน
ก็อาจจะวางโปรแกรมไปท่องเที่ยวในสถานที่อันมีโบราณวัตถุสำคัญเพียงเล็กน้อย
ซึ่งอาจจะไม่ทั่วถึง จำเป็นจะต้องเอาไว้เที่ยวต่อในวันหลัง
ส่วนการท่องเที่ยวเพื่อชมภูมิประเทศอันสวยงามก็ดี หรือท่องเที่ยวไปถึงเมืองโบราณ
เช่น อยุธยา ลพบุรี สุโขทัย นครสวรรค์ กำแพงเพชร และเชียงใหม่
จำต้องอาศัยวันหยุดงานหลายวัน อาจจะเป็น ๔-๕ วัน
ทั้งนี้เราจำเป็นจะต้องเตรียมพร้อม โดยแสวงหาข้อมูลไว้ล่วงหน้า เช่น
อ่านข้อเขียนของผู้อื่นบ้าง หรือค้นคว้าประวัติและเอกสารจากห้องสมุด
รวมทั้งข้อคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ
เพื่อว่าเราจะได้เดินทางไปเห็นได้ด้วยตัวเอง
จะได้บันทึกข้อคิดเห็นตามที่อายตนะของเราสัมผัสได้
ที่ว่าถึงการไปเที่ยวดูและศึกษาทางโบราณวัตถุสถาน ซึ่งบางแห่งอาจต้องใช้เวลามาก
ต้องไปดูซ้ำ ๆ ซาก ๆ อย่างน้อยก็ต้อง ๓-๔ ครั้ง
หากว่าท่านอยู่ในเมืองหลวง กรุงเทพฯ และธนบุรี
การที่จะริเริ่มเที่ยวเพื่อศึกษาโบราณวัตถุสถานก็ควรเที่ยวเอาตามจังหวัด
หรือเมืองใกล้ ๆ ที่สะดวกในการเช่าโรงแรมที่พัก
โดยการจองไว้ล่วงหน้าแม้ไม่ตรงกับวันนักขัตฤกษ์
จะใช้เวลาเพียงแค่วันเสาร์กับอาทิตย์เท่านั้นก็พอ แล้วไปต่อเอาในสัปดาห์ถัดไป เช่น
ไปเที่ยวราชบุรี เพชรบุรี สุพรรณบุรี อยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี
สถานที่ในจังหวัดเหล่านั้น น่าเที่ยวด้วยมีเป้าหมายต่าง ๆ ครบครันในการแสวงหาให้ค้นคว้าเพื่อเกิดความเพลิดเพลินเจริญใจต่าง
ๆ เช่น ทะเล ภูเขา เถื่อนถ้ำ หมู่บ้าน วัฒนธรรมแปลก ๆ เจดียสถาน บ้านเมือง
บางแห่งก็เกลื่อนกลาดไปด้วยลวดลายศิลปะวัตถุอันชวนพิศวง เช่น ลายปูนปั้น
พระพุทธรูปที่สำคัญของบ้านเมือง หรือมีพิพิธภัณฑ์ที่ล้ำค่า หาดูที่ใด ๆ ไม่ได้
อย่างเช่นจังหวัดราชบุรี มีโบราณสถานสมัยทวารวดี
เช่น วัดมหาธาตุ วัดอรัญญิก ถ้ำเขางู ถ้ำฝาโถ ถ้ำพระนอน
ด้วยจำหลักลงไปบนผนังศิลาทั้งสิ้น ล้วนเป็นโบราณวัตถุสถานเก่าแก่นับพัน ๆ ปีขึ้นไป
เป็นศิลปะแบบทวารวดี ศิลปะทวารวดีนี้ได้พบที่เขางูและเมืองโบราณที่คูบัว เป็นต้น
ที่เพชรบุรีก็มีเมืองโบราณ
เต็มไปด้วยศิลปวัตถุสมัยต่าง ๆ เช่น สมัยอู่ทอง สมัยอยุธยาตอนต้นและตอนปลาย
มีพระนอนก่ออิฐใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่วัดพระนอน
มีวัดสมัยอยุธยาให้ได้ศึกษาอีกอย่างน้อยก็ ๔-๕ วัด รวมทั้งเถื่อนถ้ำอันงดงามอีกหลายแห่ง
จังหวัดใหญ่อย่างเพชรบุรีนี้ แม้จะมาเที่ยวสัก ๓-๔ วันคงจะไม่พอ
บางทีท่านอาจจะต้องใช้เวลาถึง ๔-๕ ครั้งขึ้นไป
ปีนเขาไปชมพระพุทธรูปโบราณภายในถ้ำที่เพชรบุรี ได้ชมถ้ำเขาหลวง
สถานที่สุนทรภู่กวีเอกเคยพาสาวงามมาพักอยู่เงียบ ๆ ได้ชมปากถ้ำของเมืองลับแลที่กล่าวขานมาแต่สมัยโบราณซึ่งอยู่ใกล้
ๆ กัน ชมถ้ำเขาบันไดอิฐ มีทั้งบุษบกสมัยอยุธยาอยู่ภายในถ้ำ มีความงามแปลก ๆ
ภายในถ้ำ ที่บนเนินเขามีบรรจุพระพุทธรูปกับเจดีย์สมัยอยุธยาตอนปลายระยะต้นตั้งอยู่
นักเลงทางศิลปะควรไปชมหน้าบันอุโบสถทั้งหน้าและหลัง ทำด้วยปูนปั้นอันงามวิจิตรไม่มีแห่งใดเทียม
ปูนปั้นเพชรบุรีอันมีชื่อเสียงยังมีที่ประดับพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ
ที่จริงฝีมือปูนปั้นประดับศาสนสถานที่เพชรบุรีล้วนแต่งามจับใจแทบทั้งสิ้น
ซึ่งมีชื่อเสียงพอ ๆ กับงานจำหลักไม้
งานจำหลักไม้ที่ศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณาราม เช่น
ลายตรงประตูทางเข้าศาลาใหญ่และลายปูนปั้นหน้าบันศาลาใหญ่ก็งามวิเศษทั้งสิ้น
ฝีมือช่างเพชรบุรีสมัยอยุธยา รวมทั้งภาพเขียนสมัยอยุธยาตอนปลายที่วัดใหญ่ฯ
และวัดเกาะก็เป็นที่ขึ้นชื่อลือชากัน
เพชรบุรีเป็นหัวเมืองปากทางสู่ภาคใต้ของดินแดนสยามประเทศ ใครที่เป็นนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในการศึกษาแหล่งโบราณวัตถุย่อมไม่ควรพลาด
วัดไลย์ ศิลปะอโยธยาหรือก่อนกรุงศรีอยุธยา อยู่ที่อำเภอท่าวุ้ง
ลพบุรี
ภาพปูนปั้นบนผนังด้านนอกทิศตะวันออกแบ่งเป็นช่องสี่เหลี่ยมประจุตัวภาพจากทศชาติชาดก
ตรงกลางรูปปั้นนูนเป็นเรื่องเสด็จลงจากดาวดึงส์
จัดเป็นภาพปูนปั้นนูนสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาที่น่ายกย่องชมเชยมาก
ภาพตรงกลางรูปพระพุทธเจ้าประทับยืนบนดอกบัว ส่วนรูปในช่องเล็ก ๆ
อันล้อมรอบช่องกลางคือภาพทศชาติชาดก
ต่อมาในสมัยอยุธยาตอนต้น กลาง และปลาย นิยมเขียนภาพบนผนังพระอุโบสถ
หรือพระวิหาร เขียนภาพจิตรกรรมในฝาผนังเป็นรูปพุทธประวัติบ้าง
เป็นรูปทศชาติชาดกบ้าง ไม่ผันแปรเป็นอื่น ซึ่งดังได้กล่าวแล้วว่า
คติการทำงานจิตรกรรมรูปพระพุทธประวัติหรือรูปทศชาตินิยมกันมาตั้งแต่สมัยอโยธยาแล้ว
ในสมัยของทวารวดีกับสมัยลวปุระอันอยู่ร่วมสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๓
จะมีความแตกต่างกันบ้างตรงภาพพุทธประวัติที่ฐานเจดีย์จุลประโทน นครปฐม
ภาพปูนปั้นนูนที่ฐานเจดีย์สมัยทวารวดีแบ่งฐานเป็นช่อง ๆ ตามยาว
แล้วปั้นปูนเป็นรูปพุทธประวัติ หรือชาดกต่าง ๆ
โดยเดินเรื่องจากคัมภีร์สันสกฤตที่นิยมกันในสมัยนั้น
ภาพปูนปั้นที่ผนังพระเมรุทิศ เมรุราย วัดไชยวัฒนาราม พระนครศรีอยุธยา
ล้อมรอบพระปรางค์มหาธาตุกับพระระเบียงโดยปั้นปูนผนังด้านนอกเป็นรูปพุทธประวัติทั้งสิ้น
ยังมีลายปูนปั้นนูนจากเรื่องปฐมสมโพธิกถาประดับไว้บนหน้าบันพระอุโบสถ พระวิหาร
เรื่องพุทธประวัติจากพระอุโบสถสมัยอยุธยาตอนกลางที่วัดธรรมาราม
สมัยอยุธยาตอนปลายก็พอมีอยู่บ้างประปราย คตินี้สมัยก่อนก็มีเพียงเท่าที่จาระไนมา
แต่มาเห็นสมัยหลังคือรุ่นปี ๒๕๐๐ ได้มีพระอุโบสถสร้างใหม่ที่จังหวัดอ่างทอง
ได้มีการปั้นแบบบนหน้าอุโบสถ แล้วพอกรักติดด้วยกระจกสีเป็นรูปพุทธประวัติ
หรือมหาภิเนษกรมณ์ ซึ่งก็ดูงดงามและแปลกตาขึ้น
อย่างเช่นลายปูนปั้นสมัยอยุธยาตอนปลาย
อุโบสถวัดเขาบันไดอิฐปั้นเป็นรูปลวดลายธรรมชาติและรูปนารายณ์ทรงครุฑกลางตัว
ลายเต็มสามเหลี่ยมของหน้าบัน ซึ่งงามเป็นหนึ่งไม่มีแห่งใดมาเทียบเคียงได้
นี่ก็แสดงว่าแม้ทุกสมัยจะมีแบบแผนของตนเองก็ยังมีงานศิลปะที่แผลงออกมา
นับว่าเป็นของธรรมดา มิได้น้อมนำให้ศิลปะร่วมสมัยของตนเอาอย่างจนทั่วได้
จังหวัดที่มีโบราณสถานและศิลปวัตถุโบราณที่ผู้สนใจทางศิลปะโบราณควรต้องไปมีดังนี้ อุบลราชธานี
มีภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์อยู่ริมแม่น้ำโขง
จิตรกรโบราณจะเขียนลงบนหน้าผาอันยาวเหยียดริมฝั่งแม่น้ำโขงนั้น มีภาพปลาบึก
ภาพสัตว์ต่าง ๆ
รวมทั้งภาพผู้คนแบบศิลปกรรมก่อนประวัติศาสตร์บนหน้าผาหินที่ใหญ่และยาวที่สุดในโลก
อุบลฯ มีแม่น้ำมูลอันเป็นเสน่ห์สวยงาม นักนิยมธรรมชาติจึงไม่ควรพลาดในชีวิตนี้
โบราณวัตถุก็มีเก่าแก่ถึงสมัยทวารวดี เช่น
ใบเสมาสมัยทวารวดีในพิพิธภัณฑ์เมืองอุบลฯ มีสินค้าพื้นเมืองที่แปลก ๆ
ถูกใจนักช็อปปิ้ง มีเมืองโบราณแถบแก่งสะพือ
นอกจากนี้จังหวัดที่มีโบราณสถานน่าสนใจ คือ วัดกำแพงแลง เพชรบุรี
พระปรางค์องค์ประธานของวัดมหาธาตุ ราชบุรี
ภายในผนังของปรางค์เขียนรูปอดีตพุทธเรียงรายเป็นชั้น ๆ
บ่งว่าเป็นศิลปะศาสนาพุทธมหายาน
ที่จังหวัดลพบุรี ณ
พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์มีโบราณสถานสมัยพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. ๒๒๐๐)
สถาปัตยกรรมแบบมีการเจาะหน้าต่างโค้งเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
ยอดแหลมตามพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญมหาปราสาท
เป็นศิลปะของไทยร่วมสมัยกับสมัยศิลปะโรโคโค (Rococo)
เป็นศิลปะสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔-๑๕ ของฝรั่งเศส ในรัชสมัยนี้ พระนารายณ์มหาราชผู้ทรงคบค้ากับฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด
วิศวกรของฝรั่งได้นำเอาน้ำมาจากทะเลชุบศรต่อท่อจากภูเขามาสู่ตัวเมืองลพบุรี
นครหลวงแห่งที่ ๒ ของกรุงศรีอยุธยา
มีการสร้างน้ำพุเอามาไว้ในกลางเมืองและกลางพระราชวัง
ลพบุรีมีศิลปะเก่าแก่เกือบทุกยุคทุกสมัย เช่น ศิลปะสมัยทวารวดีที่สถูปเก่าวัดนครโกษา
ศิลปะสมัยลวปุระอันเป็นสมัยเดียวกับทวารวดีเมื่อคราวสร้างเมืองใหม่ลพบุรี
สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม
มีการขุดดินทำถนนจากสระแก้วมาถึงศาลพระกาฬ
ได้พบศิลปะลวปุระรุ่นเดียวกับทวารวดีอยู่ภายใต้ดิน พบศิลปวัตถุลวปุระจำนวนมาก
ของบางอย่างเก็บไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ลพบุรี
ถ้าจะเที่ยวลพบุรีให้ทั่วควรเช่าโรงแรมค้างคืนสัก ๓ คืน ก็จะได้ชมสิ่งต่าง ๆ
อันน่าสนใจจนทั่ว
ในการศึกษาศิลปะสมัยต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในบางกอก
เราย่อมจะพบศิลปะหลายสมัยด้วยกัน เช่น ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมีพระพุทธรูปสมัยทวารวดีตั้งแต่ปีพุทธศตวรรษที่
๑๑-๑๓ จวบจนสมัยอู่ทองก็มีตามวัดต่าง ๆ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ เช่น วัดพระเชตุพนฯ
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ ทรงโปรดเกล้าฯ
ให้นำพระพุทธรูปโบราณแต่หัวเมืองแถบเหนือขึ้นไป ตามวัดที่รกร้างต่าง ๆ ให้ชะลอลงมาเก็บรักษาไว้ในกรุงเทพฯ
ด้วยเป็นของดีงามของบ้านเมือง
ปล่อยทิ้งไว้ในป่าก็จะถูกเหล่ามิจฉาชีพทุบทำลายเอาโลหะไปขาย
เสียดายของอันมีค่าของบ้านเมืองยิ่งนัก ดังเช่น พระศรีศากยมุนี
พระประธานในพระวิหารหลวงวัดสุทัศนเทพวราราม โปรดเกล้าฯ
ให้ชะลอลงแพมาจากสุโขทัยเมืองเก่า เอามาบูรณปฏิสังขรณ์ให้เหมือนเก่า
เก็บไว้ให้เป็นศักดิ์ศรีของประเทศไทยต่อไป
โกลนพระสัมฤทธิ์ใหญ่ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา ที่ถูกพม่าเผาทำลาย โปรดฯ
ให้นำมาเก็บรักษาไว้ในองค์เจดีย์ใหญ่หลังพระอุโบสถวัดพระเชตุพนฯ
เป็นศิลปะสำคัญของกรุงศรีอยุธยา ยังมีพระพุทธรูปโลหะสัมฤทธิ์จำนวนมากที่พระระเบียงวัดพระเชตุพนฯ
มีขนาดใหญ่ ล้วนเป็นพระประธานในวัดเก่าแก่ทางแถบเหนือกรุงศรีอยุธยาขึ้นไป ก็โปรดฯ
ให้นำมารักษาไว้ มีหลักฐานที่ปรากฏว่าพระเก่าได้ถูกชะลอนำมาจากแถบเหนือ
นำมาไว้ที่วัดพระเชตุพนฯ วัดมหาธาตุฯ วัดเบญจมบพิตร และวัดเก่าในแถบฝั่งธนบุรี
พระพุทธรูปอันงามสมัยสุโขทัยได้นำลงมาประดิษฐานไว้ยังวัดที่บูรณปฏิสังขรณ์สร้างขึ้นใหม่ในกรุงเทพฯ
และธนบุรี เช่นในพระวิหารที่วัดพิชัยญาติ พระประธานในอุโบสถวัดเศวตฉัตร
เป็นพระสมัยสุโขทัยนาคปรก พระประธานสมัยสุโขทัยนำมาเป็นประธานในวิหารใหญ่ทางทิศใต้ของวัดพระเชตุพนฯ
พระขนาดใหญ่สมัยสุโขทัยนำมาเป็นพระประธานในอุโบสถและในวิหารวัดอนงคาราม
พระประธานขนาดใหญ่จากวัดทองนพคุณ
นำมาจากสุโขทัยมาเป็นพระประธานที่วัดนี้
พระประธานในพระวิหารพระพุทธนาคน้อยวัดประยุรวงศาวาสเชิงสะพานพุทธขนาดใหญ่ ก็นำมาจากสุโขทัยเอามาเก็บรักษาไว้ที่นี่
พระสมัยสุโขทัยขนาดใหญ่งดงามมาก นำมาจากสุโขทัย
เอามาประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถวัดปรินายกริมคลองบางลำพูใกล้สะพานผ่านพิภพลีลา
เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่งดงามมาก
พระพุทธรูปเก่าสมัยสุโขทัยและก่อนกรุงศรีอยุธยาถูกนำมาเก็บรักษาไว้ตามพระระเบียงวัดพระเชตุพนฯ
วัดมหาธาตุ และวัดเบญจมบพิตร
บางแห่งเป็นพระทองคำขนาดใหญ่ทั้งองค์ถูกนำเอาไปพอกปูนขาวเก็บซ่อนรักษาไว้ที่วัดแถบท่าเรือถนนตก
คือพระทองคำวัดไตรมิตร พระอีกองค์ถูกนำไปรักษาโดยพอกปูนขาวรักษาไว้เช่นกัน ยังปรากฏอยู่ที่วัดหงส์รัตนารามจนบัดนี้
จัดเป็นพระเนื้อทองคำที่มีพระพุทธลักษณะสวยงามมากของสมัยสุโขทัย
พระพุทธรูปสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาอีก ๔-๕ องค์
ถูกนำไปประดิษฐานไว้ที่พระวิหารทิศที่วัดพระเชตุพนฯ มีขนาดใหญ่
พุทธลักษณะสวยงามมาก เป็นพระอู่ทองรุ่นหลังกับพระเมืองสรรค์ซึ่งหายากมาก
ศิลปะเหล่านี้ยังคงหาดูได้ตามแหล่งที่ได้แจ้งไว้ให้ทราบแล้ว
ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ที่คนโบราณท่านได้ปฏิสังขรณ์ทำการรักษาไว้
เช่น หุ้มปูนขาวทับไว้ หรือบรรจุไว้ในพระเจดีย์ใหญ่ยังมีอีกมาก
เนื่องจากเรายังไม่มีงบประมาณที่จะทำการบำรุงรักษาได้จนอยู่ได้สภาพเดิม
จึงได้นำเอาของที่สร้างไว้ในสมัยรัตนโกสินทร์ นำมาอวดไว้ให้เชยชมกันดังนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น