วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บางส่วนจากหนังสือ ปกิณกะโหราศาสตร์ (1)




บางส่วนจากหนังสือ ปกิณกะโหราศาสตร์
โดย "พลูหลวง"

ถาม... ถ้าเราไม่ดูภพ หรือ เรือนชาตาจากลัคนา แต่จะเอาดาวต่างๆมาดูเกี่ยวกับการงาน การเงิน ความรัก หรือ เรื่องต่างๆได้ไหม เพราะ แม้แต่ลายมือเขายังมีเส้นที่บอกเกี่ยวกับการงาน ความรัก จิตใจ สมอง และชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเกิด

ตอบ.... เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด เป็นศิลปการพยากรณ์ ซ้อนการพยากรณ์อีกทีหนึ่ง มีผู้ถามข้าพเจ้ามากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และได้ตอบไปหลายราย น่าจะบันทึกไว้เป็นหลักฐาน สำหรับเป็นคู่มือโหรทั่วไปด้วย

อันที่จริงถ้าเราเข้าใจเกี่ยวกับลัคนาโลก และมีศรัทธาต่อเกษตรเรือนเดียว ก็สามารถจะรู้เรื่องราวของดวงดาวโดยละเอียด แผนผังดังภาพ โดยวางลัคนาโลกไว้ ณ.ราศีเมษ

ดาวที่มีคุณสมบัติใช้ดูเกี่ยวกับเรื่องราวได้นั้นมีดังนี้

ดาวพลูโต : หมายถึง สภาพจิต ตัวตนของเรา ความเร้นลับ การสะสม การยึดมั่นถือมั่นในตนเองเป็นที่ตั้ง

ดาวราหู : หมายถึง การได้ และ การเสีย การเสี่ยงโชค และลาภฟลุกๆ (ถ้าราหูสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ ก็จะโชคร้ายหรือล้มละลาย)

ดาวเกตุ : หมายถึง การติดต่อ การเดินทาง การสัมพันธ์กับมิตร การเจรจา

ดาวจันทร์ : หมายถึง เผ่าพันธุ์ ญาติพี่น้อง สถานที่อยู่ ที่ดิน พาหนะ

ดาวอาทิตย์ : หมายถึง อารมณ์เอาแต่ใจตนเองแบบเด็กๆ ชอบให้คนพนอตน อารมณ์กระชุ่มกระชวยเสมอ

ดาวพุธ : บ่งถึง อุปสรรค์ การขัดแย้งในตนเอง ความรวนเร

ดาวศุกร์ : หมายถึง การสมรส ชีวิตคู่ ความรัก ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบุคคลอื่น

ดาวอังคาร : หมายถึง ความตาย การกระทบกระทั่ง การเจ็บไข้ อุปัทวเหตุ ความวิบัติ

ดาวพฤหัสบดี : หมายถึง ผู้ใหญ่ บิดา-มารดา การถือบวช เกียรติยศ ชื่อเสียง การเดินทางไกล การไปต่างแดน

ดายเสาร์ : หมายถึง การงาน ความสำเร็จ ความล้มเหลว ภารกิจต่างๆ

ดาวมฤตยู : หมายถึง การสนับสนุนจากผู้อื่น มิตรสนิท การเสี่ยงโชค

ดาวเนปจูน : หมายถึง การสังคม ความเร้นลับ ไม่เปิดเผย ความเป็นคนลึกลับ แผนการร้าย สิ่งที่ปกปิดซ้อนเร้น

ต่อไป จะได้ขยายความ เพื่อให้เกิดความเข้าใจได้อย่างละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในดาวแต่ละดวง....



ดาวพลูโต  หมายถึงตัวตน หรือวาสนา เท่าที่ได้พบมา ดาวพลูโตนี้ ยังหมายถึงปรัชญาของชีวิต การตัดขาดจากกิเลส  การไปสู่พระนิพพาน  นี่ก็แสดงให้เห็นว่าพลูโตก็คือตัวเรานี่เอง บุคคลใดที่มีอำนาจจิตสูง สามารถบังคับจิต หรือใช้อำนาจจิต ได้อย่างมหัศจรรย์  จะต้องมีดาวพลูโตสัมพันธ์กับชีวิตโดยตรง เช่น ดาวพลูโตกุมลัคน์  หรือ หรืออยู่ในภพที่10 อันเป็นภพกลางฟ้าตรงศีรษะขณะเกิด  หรือ พลูโตทำมุมจตุโกณต่อลัคนา  และพลูโตต้องเด่นด้วย

ดังเช่น  ท่านพุทธทาสภิกขุ  ดาวพลูโตกุมลัคนา ร่วมกับดาวพฤหัสบดี
            รอ.ทวี นิลแก้ว  อาจารย์สอนการฝึกจิต  ตัวท่านเองก็มีอำนาจติตสูง ได้ทิพย์จักขุ และทิพย์โสต  ดาวพลูโตกุมพฤหัสบดีในภพที่เก้า(ศุภะ)
            สมเด็จพุฒาจารย์โต ดาวพลูโตกุมตนุลัคน์ และเล็งลัคนา
            อาจารย์ลี ธัมมธโร  ดาวพลูโตลอยเหนือฟ้าขณะเกิด
            อาจารย์เทส(เรี่ยวแรง) รังษี  ดาวพลูโตกุมลัคนา (ท่านเป็นศิษย์ อาจารย์มั่น )ตัวท่านเป็นคนมีอำนาจจิตสูง

จะเห็นได้ว่า อาจารย์ผู้มีพละจิตสูงเหล่านี้ ล้วนมีพลูโตสัมพันธ์ถึงลัคนาทั้งสิ้น

ดาวพลูโต หมายถึงตัวตน ด้วยเป็นเกษตรราศีเมษ ตำแหน่งตนุของลัคนาโลก ดังนี้ บุคคลดาวพลูโต จึงจิตมั่นคง ไม่ส่ายไปรับอารมณ์อื่นได้ง่าย พลูโตทำให้มีอำนาจพิเศษในตนเองเช่น สัมผัสกับลางสังหรณ์ได้แม่นยำกว่าคนอื่นๆ บุคคลที่มีอาชีพเกี่ยวกับการวินิจแัยดวงชาตาก็ดี หรือ เป็นแพทย์วินิจฉัยโรคก็ดี จำต้องกาศัยญาณหยั่งรู้ประกับกับวิชาการด้วย จึงจะวินิจฉัยได้เก่ง ดังนี้พวกโหร แพทย์ นักโบราณคดี ล้วนแต่มีดาวพลูโตสัมพันธ์กับดวงชาตาทั้งสิ้น

ถ้าดาวพลูโตในดางชาตาผู้ใดกุมพฤหัสบดี หรือ พฤหัสบดีสัมพันธ์กับดาวศุภเคราะห์เป็นอย่างี บุคคลผู้นั้นจะใฝ่ในศีลธรรมและมีจิตเป็นกุศล แมัจะประพฤติผิดมาก่อน ก็จะกลับใจได้ภายหลังเสมอ

หากผู้ใดดาวพลูโตในดวงชาตา ถูกเบียนโดยกาวบาผเคราะห์อย่างรุนแรง มักจะเคราะห์ร้าย และโดนชะตากรรมร้ายกระหน่ำเอาจนยับเยิน เช่น

มาลิลีน มอนโร ( เกิด 1 มิย. 2469) ดาว8 กุมพลูโต มีดาว7 ตรีโกณถึง มีความคับแค้นใจจนฆ่าตัวตาย
นี่เป็นเพียงโยคเกณฑ์ของดาวต่างๆทีทำมุมกับดาวพลูโต ซึ่งสามารถจะดูความเป็นไปของดวงชาตาได้ ทำนองเดียวกับดูวาสนาของบุคคล ซึ่งเป็นการดูหยาบๆ

ดวงชาตาของ พลเอก เจ้าพระยารามราฆพ (เกิด 5 ตค.2433) ท่านผู้นี้มีวาสนาสูงเด่น ได้ความความสำเร็จตลอดชีวิต ยากที่จะหาบุคคลใดมีวาสนาเทียบได้  ดวงของท่านมีดาวพลูโต กุมเนปจูนและพุธราศีพฤษภ มี 1,0และ4เกษตร อยู่ราศีกันย์  ตรีโกณถึงดาว5 ที่ราศีมังกรเช่นกัน  ดาว6 เล็ง  ดาว2 นำหน้า จากรูปดาวแบบนี้เห็นว่า ดาวพลูโตได้รับโยคเกณฑ์ที่ดี จากดาวศุภเคราะห์ทุกดวง ท่านจึงมีวาสนาดีเด่นตลอดชีวิต และอุปสรรคในชีวิตแทบไม่มี

นายประยงค์ ตั้งตรงจิตร( เกิด 3 กค.2445)  ท่านผู้นี้เป็นเศรษฐีผู้ใจบุญ ได้บริจาคเงินทำบุญสร้างวัดสร้างสาธารณะสถานไว้จำนวนมาก ดวงชาตาของท่าน ดาวพลูโต กุมดาวศุภเคราะห์สามดวง คือ 2,6,4 และ 3 มีดาว5 ตรีโกณถึง

ดาวราหู  เป็นเกษตรราศีพฤษภ  อันเป็นเรื่อนกฎุมพะของลัคนาโลกราศีเมษ ราหูถ้าได้รับโยคเกณฑ์ดีจากดาวศุภเคราะห์ จะมีโชคดีทางการเงินตลอด ถ้าสัมพันธ์กับดาวร้ายก็จะตรงกันข้าม ขอยกตัวอย่างดวงชาตาเศรษฐี เป็นข้อสังเกต คือ

สุนีรัตน์ เตลาน (เกิด 23 กค.2462)  ดาวราหูอยู่ราศีพิจิก มีดาว2 มหาอุจไปครองอยู่ในเรืองตนให้คุณและยังเล็งมาที่ราหูด้วย  ดาวศุภเคราะห์ทุกดวงคือ 1,4,5 กีบ 9 และ เนปจูน ตรีโกณถึง ทำให้ราหูได้พลังจากศุภเคราะห์เต็มที่  เจ้าชาตาจึงเป็นเศรษฐีและไม่ตกต่ำ

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ (เกิด 16 มิย. 2451) ราหูกุมดาวศุภเคราะห์ คือ 1,4 มีดาวร่วมด้วยคือ 3,9  และเนปจูนมี 2,0 เล็ง  และดาว 5,6 นำหน้า  เป็นตำแหน่งอันเด่นของราหู ทำให้ท่านจอมพลร่ำรวมอย่างมหาศาลตลอดชีวิต

ดาวเกตุ  เป็นเกษตรราศีเมถุน เป็นเรือนสหัชชะของลัคนาโลกราศีเมษ จึงเป็นดาวเกี่ยวกับการเดินทาง การไปที่แปลกๆ ชีวิตผู้อยู่ใต้อิทธิพลของดาวเกตุ เช่น เกตุ กุมลัคนาหรือลอยอยู่กลางฟ้าขณะเกิด(ภพที่10) จักไปอยูยังถิ่นแปลกๆในสิ่งแวดล้อมใหม่ ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มักมีเพื่อนฝูงมาก ส่วนมากเป็นมิตรแปลกหน้าและหลายอาชีพ บุคคลในอิทธิพลดาวเกตุ มักจะไม่ชอบสันโดษ แต่จะต้องอยู่ร่วมกับสังคมในเมือง แวดล้อมด้วยมิตรสหาย ตรงกันข้ามบุคคลที่ดาวเกตุ เป็นอริ มรณะ วินาศนะต่อลัคนา หรือถูกเบียนอย่างหนัก มักขาดมิตรอันอบอุ่น มักไม่เอาใจใคร และถือตัวเองเป็นใหญ่

เกตุจะให้คุณเด่นก็ต่อเมื่ออยู่ในภพ สหัชชะ หรือภพที่3ในดวงชาตา ด้วยเป็นการอยู่ถูกที่เพราะเกตุเป็นดาวเกี่ยวกันการเจรจา และการใช้เสียง

สมบัติ เมทะนี  ดาวเกตุกุม3 เกษตร ราศีพิจิก มี 2,5 โยคหน้า 
ล้วน ควันธรรม  ดาวเกตุ กุมดาว 2,6,0
ชูศรี  มีสมมนต์  ดาวเกตุ มี 2เกษตร , 6เล็ง ,5,4 ตรีโกณ ในภพที่5และ9
บุศรา นฤมิตร ดาวเกตุ มี 1ดยคหน้า 5 โยคหลัง

จากตัวอย่างเหล่านี้ จึงเห็นได้ว่า ดาวเกตุมีคุณสมบัติส่งเสริมในการเป็นนักแสดง นักพูด นักร้อง นักธุรกิจ ถ้าเกตุได้รับโยคเกณฑ์ จากศุภเคราะห์เด่นๆ ย่อมจะทำให้ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในด้านนี้ทุกรายไป

เท่าที่ยกตัวอย่าง ดาวพลูโต ,ราหู และ เกตุ เสียยืดยาว เนื่องจากดาวสามดวงนี้ยังไม่มีผู้คุ้นเคยกันดี จึงจำเป็นจะต้องยกตัวอย่างประกอบจำนวนมาก ส่วนดาวอื่นจะขอกล่าวเพียงย่นย่อต่อไป

ดาวจันทร์  เป็นเกษตรราศีกรกฎ และเจ้าเรือนภพที่4 หรือพันธุของลัคนาโลกราศีเมษ  จันทร์จึงหมายถึงวงศาคณาญาติ หมายถึงที่อยู่ และยานพานะ ตลอดจนสถานที่ทำงาน หากดาวจันทร์ในดวงชาตา ได้รับความสัมพันธ์ดีจากดาวศุภเคราะห์ก็ดี หรือสัมพันธ์ร้ายจากบาปเคราะห์ก็ดี  ผลย่อยจะเกิดเกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวมานี้โดยตรง ในการดูพื้นดวงชาตาก็เช่นกัน ดังเช่น

บุคคลที่ดาวจันทร์ ถูกบาปเคราะห์เบียนหนักในดวงชาตา มักโยกย้ายที่อยู่บ่อย หรือจากที่อยู่ตั้งแต่เล็ก พลัดพรากไปอยู่แดนไกล พลัดพรากจากญาติมิตร หรือกำพร้า

บุคคลที่ดาวจันทร์ ได้รับโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ในชีวิตจะมีที่ดินอย่างแน่นอน และจะมีญาติอุปถัมภ์ค้ำชูอยู่เสมอ

หรือถ้าบาปเคราะห์โคจรมาทับจันทร์เดิมในดวงชาตา ก็ต้องทายว่า จะพลัดพรากจากที่อยู่ต้องโยกย้าย ญาติเจ็บป่วยหรือเสียญาติผู้ใหญ่ หรือขัดใจกับญาติ ดังนี้เป็นต้น

ดาวอาทิตย์  เป็นเกษตรราศีสิงห์  และเป็นเจ้าเรือนปุตตะ ภพที่4 ของลัคนาโลกราศีเมษ มีความหมาย ถึง เด็ก ผู้สืบตระกูล การเสี่ยงโชค สัตว์เลี้ยง บุคคลในสายเลือดเดียวกัน เช่น บิดา พี่น้องเพศชาย

บุคคลมีดาวอาทิตย์กุมลัคนา  หรืออยู่ในภพที่10 อันเป็นภพกลางฟ้าขณะเกิด จึงมักชอบให้มีคนมาพนอเอาใจตน มีนิสัยคล้ายเด็กๆ ชอบทำอะไรให้เด่น หรือวางปึ่งโดยไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะคิดเสียว่าตนเองสำคัญที่สุด ทำอะไรชอบเอาหน้า เจ้ากี้เจ้าการ และมักยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเด็กๆ โดยบังคับบัญชาทุกฝีก้าว ไม่ปล่อยให้เด็กรู้จักคิด หรือตัดสินใจปัญหาด้วยตัวเอง คนอาทิตย์มีอิทธิพลรุนแรงต่อลัคนา มักไม่ค่อยแก่  ด้วยมีอารมณ์กระชุ่มกระชวยแบบเด็ก หรือคนวัยหนุ่มเสมอ

เรารู้กันว่าดาวอาทิตย์หมายถึงบิดา หรือ หัวหน้า แต่ขณะเดียวกันอาทิตย์ยังหมายถึงเด็ก บุตรหลาน ผู้อย่าในความคุ้มครองของเจ้าชาตาด้วย ดังนี้ดาวอาทิตย์จึงเป็นดาวครองวัยบุคคลผู้อยู่ในระหว่างอายุ 1-10 ปี หากว่าอาทิตย์เสียหายรุนแรงในชาตาต้องทายว่าอายุจะสั้น ในระหว่างวัยไม่เกิน 10 ปี จะเจ็บอย่างรุนแรงปางตาย หรือต้องรับเคราะห์กรรมอย่างหนักที่สุด

บุคคลอาทิตย์ถูกเบียนจากบาปเคราะห์อย่างหนัก มัจะกำพร้าหรือพลัดพรากจากบิดา มารดาตั้งแต่เล็ก

ดาวพุธ  เป็นเกษตรราศีกันย์ ภพอริของลัคนาโลกราศีเมษ ดาวพุธแมัจะเป็นดาวศุภเคราะห์ แต่เป็นดาวศุภเคราะห์ดวงเดียวที่มักจะให้โทษแก่ดวงชาตา ด้วยเหตุนี้โหรสมัยดบราณจึงมักเรียกว่าดาวพุธรวนเร บางคนจะสังเหตุว่าดาพุธทับลัคนามักจะเดือดร้อนวุ่นวาย ทั้งนี้พุะเป็นดาวที่ไวต่อการรับกระแสจากาวอื่นๆรวมทั้งบาปเคราะป็ด้วย เมื่อได้รับแสงจากบาปเคราะห็เต็มที่ก็จะกลายเป็นพวกบาปเคราะป์ไป ดังนี้สภาพของอริหรืออุปสรรคของพุธจึงมักสำแดงเด่นออกมาเสมอ เพราะข้องสังเกตุอันนี้ โหรโบราณจึงถือว่าพุธเป็นพวกเียวกับราหู คนเกิดวันพุธกลางคืนก็เรียกกันว่าเป็นวันราหู

พุธจึงไม่น่าไว้วางใจได้เลย เพราะโอกาสที่จะรับแสงจากดาวศุภเคราะหฺ์มีแทบตลอดเวลา พุธอาจแผลงฤทธิ์ต่อบุคคล และนำความเดือดร้อนมาให้

พุธจึงครองสภาพความเป็นอริและอุปสรรคเต็มตัว บางตำรามี่รจนาไว้รุ่นเก่าพยากรณ์ไว้ว่า พุธทับลัคน์มันเดือดร้อนวุ่นวาย นอกจากนี้สมัยโบราณยังถือว่าพุธมักมือไว ใจเร็ว ถ้าอยู่ในภพที่ 2 และ3  ในดวงชาตามักเป็นคนเห็นแก่ได้ ถ้าดวงชาตาร้ายอยู่แล้ว ถึงขนาดชอบหยิบฉวยของคนอื่น อยากได้ของๆคนอื่นเสมอ

ดาวศุกร์  เป็นเกษตรราศีตุลย์  ภพที่6 เป็นภพปัตนิของลัคนาโลกราศีเมษ ดาวศุกร์จึงหมายถึงความรัก การสมรสอันเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ชีวิตสมรสของผู้ใดจะราบรื่นหรือไม่แค่ไหนก็ได้ดูดาวศุกร์เพียงดวงเดียวจะดูออกหมด  แม้ดวงชาตาผู้ใดไม่มีลัคนา เพียงเห็นดาวศุกร์เป็นประ เป็นนิจ หรือศุกร์กุมเสาร์ หรือทำมุมฉากกับบาปเคราะห์อย่างรุนแรงก็ทายได้เลยว่า บุคคลผู้นั้นมักผิดหวังในความรัก ขีวิตสมรสไม่ราบรื่น หรือมักได้คู่ครองที่เป็นหม้าย หรือแต่งงานล่าช้า หรือคู่ครองอายุสั้น ดังนี้เป็นต้น แม้ดาวอื่นก็เช่นกัน  เมื่อเราไม่รู้ลัคนาเพียงสังเหตกาวดวงใดดวงหนึ่ง ถ้าเราเข้าใจดังได้พรรณนามาแล้วข้างต้น เราก็อาจจะพยากรณ์ได้ว่าชีวิตของเขาเป็นเช่นไร กฏเกณฑ์ดังได้อธิบายไว้ในคำตอบนี้ ถือว่าเป็นหัวใจของโหร โครจำได้จะเป็นประโยชน์มหาศาล พราะหลายครั้ง ผู้พยากรณ์มักประสบปัญหาในการพยากรณ์เมื่อผูกดวงแล้วไม่รู้เวลาเกิดของเจ้าชาตา เลยหาลัคนาไม่ได้ ก็นไม่สามารถพยากรณ์ได ที่จริงเราจะพยากรณ์ไดแตกฉานดีซิ้งกว่า รู้เรื่องดวงดาวดีพอ และพยากรณ์ได้ลึกซึ้งโดยไม่มีลัคนาเลย ขอให้จดจำเรื่องราวของดาวอื่นต่อไป 


** ยังมีต่อ ***